มีข้อดีอะไรบ้างที่เราต้องรู้ FloodBlock จะช่วยปกป้องทรัพย์สินอันมีค่า ปกป้องเวลา
รวมถึงทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบให้อย่างละเอียด

​

1. ถุงทรายนาโน FloodBlock นั้นเบามาก ก่อนที่จะบวมน้ำ

ซึ่งทำให้ตรงจุดนี้ได้เปรียบถุงทรายทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด โดยถุงทรายกันน้ำท่วมทั่วไปจะมีน้ำหนักคงที่อยู่แล้ว
ตามขนาดของถุงทรายและปริมาณทรายที่ใส่เข้าไป อาจมีน้ำหนักราวๆ 20-30 กิโลกรัม

แต่ถุงทรายนาโนป้องกันน้ำท่วม FloodBlock นั้น ต่างออกไปโดย น้ำหนักก่อนที่จะสัมผัสน้ำมีเพียง 420 กรัม เท่านั้น
ซึ่งต่างกันมากถึง 50 เท่าเลยทีเดียว มันทำให้ง่ายในเวลาที่เราจะขนย้ายด้วยซึ่งเราจะบอกในข้อถัดไป

น้ำหนักที่น้อย ทำให้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง หรือใครก็ใช้ได้ แถมยังใช้บุคลากรน้อยกว่าปกติ
หากจะต้องแบกถุงทรายทั่วไปเป็นจำนวน 200 ถุงเท่ากัน จำนวนคนที่ใช้ก็จะน้อยกว่ามาก
ทำให้ประหยัดเรื่องของแรงงานคนที่จะเข้ามาช่วยในการป้องกันน้ำท่วม ลดการจ้างแรงงาน
รวมถึงในเมื่อเกิดสภาวะน้ำท่วม เราไม่อาจจะหาทรายได้ทันถ่วงที หรือไม่อาจหาคนจำนวนมากมาช่วยได้ทัน

โดยถุงทรายนาโน FloodBlock สามารถช่วยประหยัดค่าแรงงานคนได้มากกว่าถึง 3-5 เท่าเลยทีเดียว

​

2.พื้นที่ ที่ใช้ในการเก็บรักษาถุงทรายนาโน Floodblock สำหรับกันน้ำท่วมนั้น ใช้พื้นที่น้อยกว่าถุงทรายทั่วไปมาก

 

โดยเมื่อบรรจุในสภาวะสุญญากาศ โดยใน 1แพ็คจะมี 4 ถุง มีขนาดเพียง 30x40x10cm.เท่านั้น ต่อ 1 แพ็ค

ซึ่งถ้านำไปเทียบกับขนาดของถุงทรายกันน้ำท่วมทั่วๆไป จะพบว่าใช้พื้นที่ในการเก็บน้อยกว่าถึง 10-20 เท่าเลยทีเดียว
เท่ากับว่า เราสามารถเก็บโดยใช้พื้นที่น้อยกว่ามาก เหมาะสำหรับพื้นที่ในเขต กทม.หรือในเขตที่มีพื้นที่น้อย
ไม่มีพื้นที่เพียงพอต่อการเก็บถุงทรายจำนวนมากๆได้ โดยถุงทรายนาโน Floodblock สำหรับป้องกันน้ำท่วม
สามารถเก็บไว้ในถัง โดยไม่ทำให้เสียพื้นที่ หรือทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียไม่เหมือนถุงทรายหรือกระสอบทรายกันน้ำท่วมทั่วๆไป หากเมื่อเราตั้งไว้กลางแจ้ง น้ำฝนหรือแสงแดดก็จะทำให้ทรายเกิดการหมกหมมจนเป็นพิษ มีกลิ่นเหม็นได้เหมือนกัน แต่บรรจุภัณฑ์ของ ถุงทรายกันน้ำท่วม FloodBlock ของเรานั้นบรรจุมาในสภาสุญญากาศ และซีลอีกชั้น รวมถึงมีกล่องเก็บทำให้เราสามารถ เก็บไว้ได้ยาวนานมากกว่า 3 ปี หากปีไหนไม่เกิดสภาวะน้ำท่วมก็สามารถเก็บไว้ใช้ในปีถัดๆไปได้ โดยไม่ต้องทำลาย

หรือต้องสั่งใหม่ลดค่าใช้จ่ายต่อปี และความกังวลในการเตรียมอุปกรณ์ลงไปได้มาก

​

3.การขนส่งถุงทรายนาโน Floodblock สำหรับป้องกันน้ำท่วมขนได้มากกว่าถุงทรายทั่วไปมาก

ในการขนส่งแต่ละรอบ เราต้องใช้รถขนาดใหญ่ หากเราต้องการขนถุงทรายจำนวน 1000 ถุงเข้าไปในเขตพื้นที่
ประสบอุทกภัยหรือในเขตน้ำท่วม เราต้องใช้รถบรรทุก และคนจำนวนมากเพื่อที่จะยกถุงทรายที่มีน้ำหนักมาก
และมีจำนวนมากๆ โดยส่งหลายรอบ เพราะรถเองก็ไม่สามารถบรรทุกน้ำหนักเข้าไปทีละมากๆได้

หากเราลองมาคำนวณดูคร่าวๆถึงน้ำหนักถุงทรายกันน้ำท่วมทั่วๆไป จำนวน 1000 ถุง
ถุงทราย 1 ถุงหนักประมาณ 20 กิโลกรัม x 1000 ถุง น้ำหนักทั้งหมดจะตกประมาณ 20 ตันเลยทีเดียว
หากเราต้องขนของ 20 ตันเพื่อเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม มันจึงเป็นไปด้วยความล่าช้า และยากในการขนย้าย
จึงต้องการบุคคลากรจำนวนมากดังที่กล่าวไว้ใน ข้อ 1 แล้ว
แต่หาก ถุงทรายนาโน FloodBlock สำหรับป้องกันน้ำท่วม คิดด้วยที่จำนวนเท่ากัน จะมีน้ำหนักเพียง 
0.42 x 1000 = 420 กิโลกรัม เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรถกระบะหรือรถหกล้อ ก็สามารถบรรทุกเข้าไปได้ง่ายๆ

โดยใช้รถเพียง 1 คันและ 1 รอบเท่านั้น ทำให้การช่วยเหลือ นั้นเร็วกว่าและสะดวกมากกว่า ประหยัดค่าน้ำมัน

ค่ารถที่ใช้ในการขนส่งลงไปได้มากถึง 7-10 เท่าเลยทีเดียว หาก รถ 1 คันบรรจุทรายได้มากสุดที่ 2 ตัน

​

ก็ต้องใช้รถบรรทุกทั้งสิ้น 10 คัน 1 รอบ หรือจะใช้ 1 คันแต่ส่ง 10 รอบ

แต่หากใช้ถุงทรายนาโน FloodBlock จะใช้เพียง 1 คันและส่งเพียง 1 รอบเท่านั้น

​

4.การเตรียมพร้อมรับมือสภาวะน้ำท่วม

​

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา สาเหตุอันดับต้นๆที่ทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุด คือการที่ไม่คิดเตรียมรับมือสภาวะน้ำท่วมเลยต่างหาก นั่นคือต้นเหตุหลักของความเสียหายมากมายทั้งทางทรัพย์สิน และชีวิต หากเราเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉุกเฉินได้ ก็เชื่อว่าความเสียหายและความสูญเสียย่อมน้อยลงตามมาเช่นกัน ถุงทรายนาโนนวัตกรรม FloodBlock เข้ามาตอบโจทย์ สำหรับคนที่มองการณ์ไกล และฉลาดที่จะรู้จักการป้องกัน ดีกว่าที่เราจะมานั่งแก้ไขหลังจากที่เกิดน้ำท่วมไปแล้ว FloodBlock เองให้คุณใช้เวลาในการเตรียมการที่น้อยมากๆ คือ ใน 1 ถุง สามารถบวมน้ำได้ใน 3-5 นาทีเท่านั้น 

*** โดยหากให้ดีที่สุด ควรนำน้ำสะอาดใส่ถังและแช่ถุง FloodBlock ไปเพื่อนำมาใช้เตรียมกั้นน้ำท่วม

​

แต่.... หากฉุกเฉินจริงๆ ก็สามารถน้ำถุง FloodBlock ไปวางกันน้ำท่วมได้ทันที ถุงจะค่อยๆดูดซึมน้ำจนมีน้ำหนักมากขึ้นและพองตัวมากขึ้น หากวางต่อๆกันหลายๆถุงก็จะสามารถนำมาใช้กั้นน้ำท่วมได้เหมือนกระสอบทรายทั่วไป หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

​

​

5.การเก็บรักษา

​

ผมอยากให้ทุกๆคนลองจินตนาการดู ถึงออฟฟิศ ถึงที่ทำงาน ถึงโกดัง ถึงร้านค้าของคุณ รวมถึงบ้านอันอบอุ่นของคุณ ว่าหากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมจริงๆ คุณมีพื้นที่เก็บกระสอบทรายหรือไม่??? และ มันจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน ตอนน้ำท่วมจะยังใช้ได้หรือไม่

ทรายจะเน่าเสียไปก่อนมั้ย ถุงทรายนาโน FloodBlock ก็เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ให้คุณได้ หากคุณยังไม่ฉีกถุงสุญญากาศซึ่งบรรจุ ถุงทรายนาโน FloodBlock ไว้ 4 ถุง มันสามารถเก็บได้มากกว่า 3 ปีเลยทีเดียว หากปีไหนน้ำไม่ท่วม คุณก็ยังสามารถเก็บไว้ใช้ในปีต่อๆไปได้ รวมถึง หากคุณใช้ไม่หมด สมมติว่า ถ้าคุณใช้ถุงทรายทั้งหมด 22 ถุง เหลืออยู่ 2 ถุงที่ยังไม่ได้ใช้ FloodBlock สามารถเก็บใส่ Package ได้พร้อมปิดซิปให้แน่นเพื่อป้องกันอากาศเข้า ก็ยังสามารถเก็บได้เป็นปีเช่นกัน มันสะดวกกว่ามั้ยหละครับ

​

6.แรงงานคนและการยก

​

ถ้าให้เรายกของ หนัก 420 กรัม กับยกของหนัก 25 กิโลกรัม คำถามคือ แบบไหนที่น่าจะยกได้จำนวนมากกว่ากัน หรือใช้จำนวนคนในการยกน้อยกว่า ถุงทรายนาโน FloodBlock สามารถทำให้คุณขนย้ายถุงทรายได้แบบง่ายๆ แม้คุณจะมีคนเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น

​

พร้อมมีหูสำหรับยก ทำให้ง่ายๆต่อการยก ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถช่วยกันยกได้ ผู้หญิงก็สามารถช่วยกันยกได้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมากเลยในการที่จะตั้งกระสอบทรายเหมือนกระสอบทรายทั่วๆไป คุณแค่ยกมันมาวางในที่น้ำท่วม และรอให้มันบวมน้ำ

จากนั้นคุณก็ยกเพื่อจัดกระสอบทรายหรือถุงทรายนาโน ให้เป็นกำแพงฐานสามเหลี่ยมที่ถูกต้องตามหลักการก่อคันกั้นน้ำสำหรับกระสอบทราย

​

​

และนี่ก็คือ 6 ประโยชน์หลักๆ ที่คุณจะได้รับจากกระสอบทรายนาโน FloodBlock เพื่อให้คุณได้ใช้มันง่ายที่สุด สะดวกที่สุด

สามารถช่วยปกป้องบ้านและทรัพย์สินอันมีค่าของคุณได้ โดยที่คุณไม่ต้องกังวลในวันที่น้ำมา เพราะเราเชื่อว่า

"เพราะคนฉลาด คือ คนที่เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอยู่เสมอ"

​

​

​