top of page

น้ำท่วมสร้างความเสียหาย ให้กับเราอย่างไรบ้าง

ในบทความนี้จะมาชี้แจงความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมหรือ อุทกภัยในบ้านเรา ว่าสร้างความเสียหาย
ต่อภาคใดมากที่สุดและประเมินความเสียหายต่อครั้งที่เกิดประมาณเท่าไหร่

ผมขออนุญาติแบ่งผลกระทบออกเป็น 2 ด้านใหญ่ๆก่อน คือ

1. ผลกระทบจากน้ำท่วมต่อตัวเราเองหรือภาคครัวเรือน

สิ่งที่ปัญหาน้ำท่วม ผลกระทบต่อตัวเราเองหรือภาคครัวเรือน แบ่งย่อยออกเป็นอีก 3 หัวข้อ


1.1 ผลกระทบในเชิงทรัพย์สิน

เช่น เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ในบ้านต่างๆที่เสียหาย
รวมถึงการปรับปรุงบ้านใหม่หลังจากที่น้ำท่วมไปแล้วด้วย ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยต่อบ้าน 1 หลัง
เป็นเงินระหว่าง 1 หมื่นกว่าบาท จนถึงหลัก แสนบาทเลยทีเดียว

1.2 ผลกระทบเชิงสุขภาพร่างกาย และใจ


แน่นอนที่สุดเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้นมา ชาวบ้านหรือผู้ประสบภัยเอง
ก็ต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวหรือการอพยพ
สิ่งที่มาจากน้ำท่วม ไม่เพียงเป็นแค่ปัญหาที่กระทบกับตัวบ้านเท่านั้น
มันยังนำเชื้อราและกลิ่น อันไม่พึงประสงค์มาด้วย ก่อให้เกิดการติดเชื้อกับร่างกาย
และทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รวมถึงสุขจิตใจ ที่ต้องกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้นหรือไม่ 
ฝนจะตกหนักมาอีกหรือไม่ น้ำจากป่าจะไหลบ่ามาหรือไม่ จะไหลมากี่โมง
สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อจิตใจแทบทั้งสิ้น ทำให้เกิดภาวะเครียดสะสม

1.3 ผลกระทบในเชิงการดำเนินกิจวัตรประจำวันและความเป็นอยู่


แน่นอนว่าเมื่อเกิดสภาวะน้ำท่วมขึ้นมา ชีวิตประจำวันของเราเองนั้นก็จะเปลี่ยนไป
บางบ้านอาจต้องเปลี่ยนที่อาศัยกันเลยทีเดียว บางบ้านก็ไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเลี้ยงครอบครัวและหาอาหารมาให้ ส่วนนี้จะทำให้เกิดความยากลำบากมาก
ส่งผลให้ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทำงาน การทานอาหาร หรือกิจกรรมอื่นๆที่ในภาวะปกติ
ทำได้ก็จะต้องถูกยกเลิกไป บางบ้านหากมีสัตว์เลี้ยง ก็จะเป็นภาระเพิ่มอีกเพราะไม่มีที่อยู่

ที่เป็นหลักแหล่งให้มันอยู่ในตอนน้ำท่วม ต้องนอนปนกัน แถมเวลาขับถ่ายก็ไม่สามารถใช้

ส้วมได้ตามปกติ เพราะน้ำไม่สามารถกดลงไปแล้ว รวมถึงต้องมาคอยเฝ้าระวังและฟังข่าวอยู่ตลอดเวลา
เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตของตนเอง แค่คิดคร่าวๆเท่านี้ น้ำท่วมก็ส่งผลด้านลบ

อย่างมหาศาลกับชีวิตของผู้ประสบภัยอย่างมากเลยทีเดียว

2. คือผลกระทบจากน้ำท่วมหรืออุทกภัยแบบภาพใหญ่หรือมหภาค

แบ่งออกเป็นเชิงขนส่งและพาณิชย์ เชิงเกษตรกรรม เชิงอุตสาหกรรม

1. ผลกระทบจากน้ำท่วมที่ส่งผลต่อขนส่งและพาณิชย์

ในภาวะน้ำท่วม เส้นทางถนนหลายสายต้องขาดทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก

ส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจขนส่งและธุรกิจเชิงพาณิชย์ต่างๆ เพราะสินค้าที่ต้องส่งอยู่ตลอดทุกวัน

ไม่สามารถส่งไปถึงลูกค้าได้ ขนส่งอาหารทะเลสด อาหารสด หรือวัสดุที่ใช้ในการทำอาหาร

หรือขนส่งมวลชนเอง ก็ไม่สามารถเดินทางไปมาได้สะดวก คนที่ใช้รถของขนส่งมวลชน

ก็จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปด้วย ส่งผลเสียหายอย่างมาก ทำให้ทุกอย่างชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว

2. ผลกระทบจากน้ำท่วมที่ส่งผลต่อเชิงเกษตรกรรม

น้ำท่วมเป็นภัยและศัตรูต่อภาคเกษตรกรรมอย่างร้ายแรงที่สุดมายาวนาน พอๆกับภัยแล้งเลยทีเดียว

พืชพรรณต่างๆไม่สามารถเจริญเติบโตในน้ำได้ ทำให้รากเน่าเสีย และตายลงในที่สุด

ผลกระทบจากน้ำท่วมที่มากที่สุดก็คงไม่พ้นเกษตรกรตาดำๆ ถ้าลงเมล็ดหว่านไปแล้ว

หรือต้นกำลังเจริญพันธุ์แล้วต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ก็แทบจะสิ้นเนื้อประดาตัว

กันเลยทีเดียว ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้ แถมผลผลิตก็ยังได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมอีก

คนที่ต้องรับเคราะห์ก็คงหนีไม่พ้นเกษตรกรเช่นเดิม ต้องมาทำนาทำไร่ชดใช้หนี้สินที่กู้ยืมมา

หากมีภาครัฐมาคอยช่วยเหลือ หรือนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรก็คงจะดีไม่น้อย

เกษตรกรเองก็ต้องปรับตัว ให้เข้ากับยุคใหม่ นำเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ต่อตัวเองมาปรับใช้

กับการเกษตร รับฟังข่าวสารให้ทัน ทำเกษตรผสานแนวใหม่ คือต้องวางรากฐานตั้งแต่ต้น

ตั้งแต่ปรับดิน ทำเกษตร วางแผนอย่างไรไม่ให้เกิดน้ำท่วมที่ดินแปลงของเรา ต้องบริหารจัดการ

น้ำท่วมให้ทันต่อสถานการณ์ จึงจะผ่านปัญหาและภัยจากน้ำท่วมนี้ไปได้อย่างเสียหายน้อยที่สุด

3. ผลกระทบจากน้ำท่วมที่ส่งผลต่อเชิงภาคผลิตและอุตสาหกรรม

สืบเนื่องมาจากผลกระทบจากภาคครัวเรือน หากน้ำท่วมหรืออุทกภัยเกิดขึ้นในวงกว้าง

เช่น 1,000 ครั้วเรือน หรือหลักหมื่นหรือแสนครัวเรือน

ก็จะกลายเป็นปัญหาระดับมหภาคขึ้นมา คนไม่สามารถออกไปทำมาหารายได้ให้กับครอบครัวตัวเองได้

ถ้าไม่มีเงินเก็บ หรือไม่มีเงินสำรอง หรือผู้คนที่หาเช้ากินค่ำนั่นเอง คนส่วนนี้จะได้รับผลกระทบมากที่สุด

ส่วนมากคนพวกนี้ก็จะเป็นแรงงานให้กับโรงงานต่างๆ และเมื่อคนไม่สามารถออกไปทำงานได้ตามปกติ

ก็จะกลายเป็นผลกระทบต่อเนื่องในเชิงอุตสาหกรรม การผลิตเกิดความล่าช้าหรือต้องหยุดการผลิตไป

เมื่อโรงงานไม่มีรายได้ ก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อมาคือ กิจการอาจจะเกิดการขาดทุน ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง

และเมื่อโรงงานไม่มีกำไร ภาครัฐเองก็จะไม่สามารถเก็บภาษีได้ รัฐก็จะได้รายได้น้อยลง

เงินคงคลังก็จะน้อยลง GDP ประเทศก็เติบโตน้อยลง เช่นเดียวกับสถานการณ์ COVID19 ในช่วงนี้

ส่งผลกระทบอย่างมาศาลต่อทุกภาคส่วน รายได้จากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ติดลบกันหมด

ไม่มีใครเลี่ยงภาวะนี้ได้ ในเมื่อตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเราก็พยายามมุ่งเน้น

ไปยังธุรกิจภาคผลิตและอุตสาหกรรม ให้มาช่วยเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนรายได้ของประเทศ

เพื่อช่วยภาคเกษตรกรรมและภาคธุรกิจเชิงท่องเที่ยว

เพราะฉะนั้นการจะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้นั้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคครัวเรือนเองก็ต้องร่วมมือ

และสนับสนุนกันในทุกๆส่วนเพื่อให้ การแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นไปอย่างมั่นคง ส่งผลกระทบเชิงลบ

ต่อทุกภาคส่วนให้น้อยที่สุด เพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วนเองเช่นกัน เพราะทุกๆภาคส่วน

ต่างล้วนต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ทางใดสักทางหนึ่งอย่างแน่นอน

*** Floodblock Thailand ถุงทรายกันน้ำท่วม นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี เองก็ขอเป็นส่วนหนึ่ง

ในการช่วยภาคครัวเรือนเอง ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ลดความเสียหายและความสูญเสีย

ที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด เราเชื่อว่า การป้องกันนั้นดีกว่าการแก้ไข เสมอ!!! หากทุกๆคนตระหนัก

และเตรียมพร้อมในการรับมืออย่างไม่ประมาท ก็จะส่งผลดีต่อบุคคลและครอบครัวนั้นๆมากที่สุดเช่นกัน

bottom of page